ไม่รู้จักพอ ก็ไปต่อไม่ได้

หกสิงหา: จริง ๆ แล้ว เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าฝ่ายหญิงรักคุณมากพอ แต่เท่าที่อ่าน… ดูเหมือนเธอจะรักตัวเองมากจนเกินไป จะเรียกว่า “เห็นแก่ตัว” ก็เริ่มเข้าข่าย เพราะการวางตัวแบบที่เธอทำอยู่ สร้างความไม่สบายใจให้กับคนรัก แต่เธอกลับแสดงอาการหงุดหงิดที่คุณไปขัดขวางความสุขของเธอ  ขัดขวางความสัมพันธ์ของเธอกับคนอื่น ๆ

ผมคิดว่ามันเป็นสามัญสำนึกในเรื่องการวางตัว ยิ่งกับแฟนเก่าหรือกับคนที่เคยเข้ามาจีบ ระยะห่างต้องกว้างกว่าคนปกติทั่วไป แม้ใจจะไม่ได้คิดอะไรเกินเลยก็ตาม แต่เมื่อไม่โสดแล้ว มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ก็ต้องหัด “เอาใจเขามาใส่ใจเรา”  ถ้าคิดว่าตัวเองยังรักอิสระ ไม่อยากผูกมัด ก็ไม่ควรมีแฟน เพราะตัวเองยังไม่รู้จักพอ ยังไม่อยากเลือกหรืออะไรก็ตามแต่

เป็นผู้หญิง, กลับบ้านพร้อมกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน  เป็นผู้หญิงไม่โสด แต่ไปเที่ยวกับเพื่อนผู้ชายที่เคยตามจีบแบบสองต่อสอง… มันไม่ดูแปลกๆ เหรอครับ? ถ้ามีแฟน… แล้วแฟนทำตัวแบบนี้ ผมเองก็เหนื่อยใจและไม่สบายใจไม่ต่างกับคุณแน่ ๆ  ยิ่งเป็นผู้หญิงที่พร้อมจะเป็นขี้ปากชาวบ้านมากกว่าผู้ชาย ยิ่งต้องให้ความระมัดระวังเรื่องการวางตัว

มองมุมหนึ่ง, ผมคิดว่ามันคือความโชคดีที่คุณออกมาจากชีวิตของผู้หญิงคนนี้ เพราะดู ๆ แล้ว เธอยังเป็นคนที่รักตัวเองมากกว่ารักการมีชีวิตคู่กับคุณนะครับ ปล่อยเธอทำตัวตามในแบบของเธอไปเถอะครับ ส่วนคุณก็อยู่ในพื้นที่ของตัวเอง ความห่วงใยมีให้ได้เสมอ แต่ก็ดูขอบเขตที่พอเหมาะพอดี

ความรัก… ต้องมีทั้งเหตุผลและหัวใจ จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้  ถ้าผมเป็นคุณ… ผมไม่คบผู้หญิงคนนี้แน่นอน เพราะการวางตัวไม่เหมาะสม ซึ่งคนเราจะทำอะไรก็มาจากจิตใจลึก ๆ (การกระทำมีรากฐานคือความคิดในใจ) สิ่งที่คุณเล่ามาก็บ่งบอกแล้วว่าคุณไม่มีความสุข ก็อย่าเสียเวลาทนต่อไป ชีวิตยังอีกไกลครับ

ผู้หญิงคนนี้อาจจะรอให้คุณบอกเลิกอยู่ก็ได้ โดยที่เธอไม่อยากเป็นฝ่ายบอกก่อน พอคุณบอกเลิกก่อน เธอก็ใช้สิ่งนี้เป็นเหตุผลในการไปคบกับผู้ชายที่เธอชอบมากกว่า (ฉันโดนบอกเลิกแล้วนะ)

มาตรฐานความคิดความรู้สึกของคนเราไม่เท่ากัน หากคบแล้วต่างฝ่ายต่างไม่มีความสุข ก็ถอยออกมาดีกว่าฝืนคบไปวัน ๆ และแตกหักกันในที่สุด มองหน้ากันไม่ติด