เวลามองดูพื้นที่กว้างๆ มีลู่มีทางอย่างที่เห็นในสิงห์ ปาร์ค เชียงราย ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงการเดินเล่นและปั่นจักรยาน ยิ่งช่วงเย็นๆ ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ยิ่งทำให้บรรยากาศเหมาะกับการปั่นจักรยานรับลมเย็นๆ
ไม่ต้องลำบากแบกจักรยานจากที่บ้านขึ้นเครื่องบินหรือใส่รถยนต์ขนให้เมื่อยตัว เพราะสิงห์ ปาร์ค เชียงราย มีบริการให้เช่ารถจักรยานหลากหลายแบบ ทั้งจักรยานธรรมดาปั่นคนเดียว (จักรยานเสือภูเขา) จักรยานแบบสองที่นั่ง แบบไฮบริด แบบโตเกียวไบค์ และจักรยานเด็ก อัตราค่าเช่าคิดเป็นรายชั่วโมง หากใช้บริการเกินเวลาก็มีค่าบริการเพิ่มเติม พื้นที่ในสิงห์ ปาร์ค เชียงรายก็สวยงาม จนผู้มาเยือนอยากจะอยู่แต่ละจุดนานๆ ด้วยนี่สิ (ฮา) ดังนั้นเมื่อเช่าจักรยานแล้ว หากมีทุนในการท่องเที่ยวแบบประหยัด ก็อย่าลืมตั้งนาฬิกาปลุกที่โทรศัพท์มือถือหรือนาฬิกาข้อมือด้วยนะครับ แต่ถ้าใครที่เที่ยวแบบชิลล์ๆ พร้อมจ่าย กระเป๋าตังค์หนา ก็ปั่นตามเวลาใจ เพราะยังไงๆ ค่าบริการต่างๆ ก็จะถูกหมุนเวียนไปให้กับพนักงานและคนท้องถิ่นตามระบบของกิจการเพื่อสังคม
การมาเที่ยวที่นี่ ทำให้ผมมีความรู้สึกอยากให้มี “ทางจักรยาน” แบบนี้ในทุกถนนของเมืองไทย ก็แปลกใจ… ที่บ้านเมืองเรายังมีการจัดพื้นที่ถนนแบบนี้น้อยมาก แม้ประเทศของเราโหมรณรงค์ให้ประหยัดพลังงาน ประหยัดเชื้อเพลิง (น้ำมัน) รวมถึงการลดมลภาวะทางอากาศ แต่เรายังไม่มี “ทางออก” ให้กับคนที่อยากอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ตามความเห็นส่วนตัว หากจะเพิ่มความสำคัญของการใช้จักรยานให้มากขึ้น ก็อาจจะเริ่มจากจังหวัดที่มีพื้นที่เอื้ออำนวยกับการใช้จักรยานก่อน เป็น bike city อะไรทำนองนี้ เพราะถ้าไปจัดการอะไรกับจังหวัดหรือเมืองที่เต็มไปด้วยรถยนต์จำนวนมาก และการจราจรหนาแน่น จักรยานจะกลายเป็นเหมือนอุปสรรคในการจราจรได้ทันที เพราะคนขับรถยนต์จะรู้สึกต้องระวังมากขึ้น เมื่อมีจักรยานวิ่งบนถนนใหญ่ ด้วยขนาดก็ดี… ด้วยความเร็วก็ดี… รวมไปถึงอุปกรณ์ให้สัญญาณไฟของจักรยานก็ยังไม่ได้มีมาตรฐานเหมือนกันหมด มองภาพง่ายๆ ก็เช่น จักรยานไม่มีสัญญาณไฟเลี้ยวบอกเราว่าเขาจะเลี้ยวแล้ว ผู้ร่วมถนนไม่สามารถคาดเดาได้

มีทางของตัวเอง
การได้ปั่นจักรยานในพื้นที่ธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยแอ่งน้ำ ต้นไม้ ภูเขา แบบที่นี่ จึงทำให้คนปั่นจักรยานรู้สึกเป็นอิสระ ไม่รู้สึกวิตกกังวลกับการใช้เส้นทางเพราะ “มีทางของตัวเอง” ซึ่งก็คงคล้ายกับการทำงานในตำแหน่งต่างๆ ในองค์กรหรือบริษัท หากมีการวางแผนการทำงาน ให้แนวทางที่ชัดเจน ไม่มีล้ำเส้นกัน ไม่มีเหตุให้ต้องชนกัน ก็ทำให้คนทำงานมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น เพราะความกังวลใจในการปฏิบัติงานลดน้อยลง
ผมใช้เวลาอยู่กับการปั่นจักรยานอยู่นานพอสมควร เพราะชอบแวะถ่ายภาพและคิดอะไรไปเรื่อยๆ ตามประสานักเขียน เอาจริงๆ ก็ไม่ได้ปั่นจักรยานนานมากๆ เพราะ 1. ไม่มีจักรยานของตนเอง 2. แม้มีจักรยานก็ไม่อยากปั่นในเมืองกรุง มันไม่ได้ฟีล
ชีวิตขาขึ้นเหมือนลงเนิน
ทางจักรยานของสิงห์ ปาร์ค เชียงราย เหมือนถูกออกแบบให้นักปั่นได้ใช้กำลังน่องพอสมควร สำหรับคนเริ่มมีอายุแล้ว อาจจะเปลี่ยนเป็นจูงจักรยานในจุดที่ลาดชัน แม้จักรยานจะมีเกียร์ แต่ร่างกายเรามีเพลีย, บางบริเวณที่เป็นทางลาดลง จักรยานจะนำเราไปเองโดยไม่ต้องปั่นตามหลักกลศาสตร์ เราก็แค่ประคองๆ ไว้เท่านั้น ถ้าเห็นว่าเร็วไป แตะเบรคไว้ก็ดีครับ แต่ระวังอย่าเบรคกะทันหัน
มันคงคล้ายกับชีวิตคนเราช่วงขาขึ้น อะไรๆ ก็ดีไปหมด เงินทองไหลมา พวกพ้องบริวาร การงานพุ่งพรวด เหมือนไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ถ้าเราประมาทในช่วงนี้ เราอาจพลาดล้มไม่เป็นท่า เจ็บหนักจนลุกไม่ไหวก็ได้ คล้ายกับการอยู่บนจักรยานที่กำลังลงเนินนั่นเอง เราต้องระวังในความสบายที่ได้มาด้วยครับ
เท่าที่ผมกวาดสายตามองดูผู้มาเยือนสถานที่แห่งนี้ คิดว่าเกิน 50% มาแบบเป็นครอบครัว มีเด็กๆ เต็มไปหมด วิ่งเล่นตามสนามหญ้า ปั่นจักรยานกับพ่อแม่ ดูอบอุ่นน่ารักดีครับ ผมอดใจไม่ไหว… ถึงกับไปแอบเนียนยืนตรงสนามเปตอง แล้วเก็บภาพระยะไกล และอัดคลิปวีดีโอมาด้วยครับ
จากคลิปวีดีโอ จะเห็นได้ว่าสิงห์ ปาร์คฯ สร้างโซนทางวิบากสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ นักปั่นก็ขี่วนไปวนมาเป็นลูป น่าสนุกดีครับ ทำให้ผมนึกถึงตอนวัยเด็ก ผมเคยมีจักรยานคันแรก สีแดง ตอนนั้น อายุแค่ 6 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ดีใจมากๆ ครับ ขายังหยั่งไม่ถึงพื้น ต้องใส่ล้อเสริมทำให้จักรยานยืนเองได้ แม้ไม่ปั่น ในชีวิตนี้ใครหัดขี่จักรยานแล้วไม่เคยล้มถือว่ายังไม่ได้ชิมรสชีวิตอย่างแท้จริง การล้มไม่สำคัญหรอกครับ สิ่งสำคัญกว่าคือการลุกและรุกไปข้างหน้า และให้สังเกตวันที่เราล้ม ใครที่เดินมาหาเราคนแรกๆ นั่นแหละ “มิตรแท้”
เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง
ปั่นจักรยานหรือเดินเล่นจนเมื่อยและเหนื่อยแล้ว ก็วางเป้นั่งพัก หาอะไรเย็นๆ ดื่มได้ที่ร้านของที่ระลึกและขายเครื่องดื่มต่างๆ มีขนมด้วยครับ ที่ชอบมากคือการจัดอาคารเหมือนกึ่งบ้านพักกึ่งร้านมินิมาร์ท พร้อมบริการที่นั่งทั้งในอาคารและนอกตัวอาคาร ถ้าสังเกตภาพดีๆ จะเห็นกล้อง CCTV อยู่ที่ด้านบนเพดาน ซึ่งนี่เป็นมาตรฐานความปลอดภัยของสิงห์ ปาร์คฯ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวมีความอุ่นใจมากขึ้นอีกระดับ
มาถึงแหล่งปลูกเสาวรสแล้ว ก็คงไม่พลาดลิ้มรส ดูภายนอกแล้ว packaging ดูดีมีระดับมากๆ ครับ ถ้าเอาไปวางในห้างหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตของยุโรปก็เข้ากันได้ ภายใต้แบรนด์ไทยๆ “บุญรอด ฟาร์ม”
ความประทับใจและความสุขยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ติดตามตอนสุดท้ายของการเดินทางเร็วๆ นี้ครับ : )
อ่านจบแล้ว คิดยังไงบ้างครับ?